Kim loại bạc đang trở thành xu hướng đầu tư lớn: Thông tin về giá bạc thỏi và cơ hội hấp dẫn trong năm 2025

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสนใจในการลงทุน Silver ได้พุ่งชุ่มชื่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากนักลงทุนที่มองหาสินทรัพย์ที่สามารถสร้างผลตอบแทนเหนือกว่าทองคำได้ วันนี้เราจะค้นหาว่าเหตุใดโลหะเงินจึงกำลังดึงดูดสายตาของตลาดการลงทุน และวิธีใดที่นักลงทุนสามารถเข้าถึงโอกาสนี้ได้

ราคาเงินแท่งขึ้นเป็นจุดศูนย์กลางของตลาดโลหะมีค่า

ราคาของเงินมีการเคลื่อนไหวแบบไดนามิกมากยิ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากตลาดโลกในการคนหาตัวเลือกการลงทุนที่เหนือกว่า ก่อนที่เราจะลงลึกในรายละเอียด ให้เราเข้าใจพื้นฐานของเงินและบทบาทของมันในเศรษฐกิจยุคใหม่

โลหะเงิน: กำลังลืมหรือกำลังเกิดขึ้นใหม่?

เงินมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 4 ศตวรรษในฐานะหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีคุณค่าที่สุดของมนุษยชาติ มนุษย์นำเงินมาใช้เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนคุณค่ามานับแต่ยุคโบราณ:

  • ตั้งแต่ 3000 ปีก่อนคริสตกาล เงินได้ถูกปรุงแต่งเป็นแหวนและแท่งที่มีน้ำหนักมาตรฐาน ใช้เป็นสื่อในการซื้อขาย
  • ในศตวรรษที่ 16 ประเทศสเปนได้นำเงินมาสร้างเหรียญ ซึ่งกลายเป็นกระบวนการแรกที่ทำให้สกุลเงินเป็นสากลและได้รับการยอมรับในทุกแผ่นดินโลก
  • แม้ว่าระบบมาตรฐานเงิน (Silver Standard) ได้ถูกยกเลิกในปี 1935 แต่เงินยังคงถูกผลิตมาใช้ในการลงทุนไปจนถึงปัจจุบัน

เพราะเหตุใดเงินจึงกลับมามีความสำคัญในโลกเทคโนโลยี

คุณลักษณะทางกายภาพของเงิน ที่ไม่มีโลหะอื่นใดสามารถแทนที่ได้ ทำให้มันกลายเป็นวัตถุดิบสำคัญของเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ซึ่งต่างจากทองคำมาก:

การนำไฟฟ้าและความร้อนที่เหนือชั้น - เงินเป็นวัตถุนำไฟฟ้าที่ดีที่สุดในโลก ทำให้มันเป็นองค์ประกอบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์

การสะท้อนแสงที่โดดเด่น - คุณสมบัตินี้ช่วยให้มีประสิทธิภาพในการแปลงแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าในแผงโซลาร์เซลล์

ต้านเชื้อแบคทีเรียตามธรรมชาติ - ทำให้เงินใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางในด้านเวชศาสตร์ตั้งแต่วัสดุปฐมพยาบาลไปจนถึงเครื่องมือศัลยกรรม

ความยืดหยุ่นสูง - คุณสมบัตินี้ช่วยให้เงินเหมาะสำหรับการผลิตไมโครอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการความแม่นยำสูง

ปัจจัยเหล่านี้ร่วมกันขับเคลื่อนความต้องการเงินในเทคโนโลยีสะอาด ยานพาหนะไฟฟ้า เครือข่าย 5G และโครงสร้างปัญญาประดิษฐ์ ล้วนพึ่งพาเงินอย่างขาดไม่ได้

การเคลื่อนไหวของราคาเงิน: ขับเคลื่อนโดยอะไร?

ราคาของเงินไม่ได้เป็นการสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ถูกกำหนดโดยปัจจัยหลายประการทั้งระดับมหภาคและระดับจุลภาค

ปัจจัยระดับเศรษฐกิจใหญ่

นโยบายอัตราดอกเบี้ย - ความสัมพันธ์ระหว่างระดับดอกเบี้ยกับราคาโลหะมีค่ามีความชัดเจน การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางในช่วงปี 2025 ได้ทำให้ราคาเงินเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ความแข็งแรงของดอลลาร์สหรัฐ - เงินและดอลลาร์มีความสัมพันธ์แบบผกผันกัน เมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลง นักลงทุนจากประเทศอื่นจะสามารถซื้อเงินได้ในราคาที่ถูกกว่า ซึ่งกระตุ้นความต้องการและยกระดับราคา

ภาวะเงินเฟ้อและความไม่แน่นอนทางการเมือง - เงินกำลังได้รับการยอมรับจากนักลงทุนเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อและความผันผวนทางการเมือง

ปัจจัยพื้นฐาน: ความหิวของตลาด

ตามข้อมูลจากรายงาน World Silver Survey 2025 ตลาดเงินกำลังประสบกับ “ภาวะขาดดุลเชิงโครงสร้าง” ที่สำคัญ - ความต้องการทั่วโลกเกินกว่าปริมาณที่สามารถผลิตและรีไซเคิลได้

ความต้องการจากอุตสาหกรรมทำสถิติสูงสุด - ความต้องการภาคอุตสาหกรรมถึง 680.5 ล้านออนซ์ในปี 2024 คิดเป็นเกือบ 59% ของอุปสงค์รวมทั้งหมด โดยเฉพาะจากพลังงานสะอาด ยานไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ดิจิทัล

อุปทานที่ไม่สามารถตามทันได้ - ในขณะที่ความต้องการพุ่งสูงขึ้น อุปทานเผชิญกับสิ่งกีดขวางต่างๆ ตั้งแต่การผลิตที่ไม่เพียงพอ การผลิตพลวัตอจากการทำเหมืองแร่อื่นๆ และการลดลงของคลังสินค้า สถานการณ์นี้ทำให้เกิด “Perfect Storm” ที่อาจขับเคลื่อนราคาเงิน ราคาเงินแท่ง และโลหะเงินโดยทั่วไปไปยังระดับใหม่ที่สูงกว่า

การเปรียบเทียบระหว่างทองคำและเงิน: ความเหมือนและความต่างที่สำคัญ

เมื่อพูดถึงโลหะมีค่า ทองคำมักถูกยกให้เป็นมาตรฐาน แต่การวิเคราะห์เงินเทียบกับทองคำจะเปิดเผยความแตกต่างที่อาจสำคัญสำหรับนักลงทุน

Gold/Silver Ratio: ตัวบ่งชี้ที่บอกความจริง

Gold/Silver Ratio (GSR) แสดงให้เห็นว่าต้องใช้เงินกี่ออนซ์ในการซื้อทองคำ 1 ออนซ์ ตัวชี้วัดนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่สะท้อนถึงอารมณ์ของตลาด:

  • ในช่วงวิกฤตเมื่อนักลงทุนตกใจ (เช่น มีนาคม 2020) พวกเขาหมดไปหลบภัยในทองคำ ทำให้ GSR พุ่งไปถึง 124:1 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • เมื่อความเชื่อมั่นกลับคืนมา นักลงทุนจะมองหาเงิน เพราะมันสามารถสร้างผลตอบแทนสูงกว่า ทำให้อัตราส่วนลดลง (ตัวอย่างเช่น 31:1 ในปี 2011)
  • ปัจจุบัน GSR อยู่ที่ประมาณ 84:1 ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดยังไม่ได้ให้มูลค่าที่เพียงพอกับศักยภาพของเงินจากด้านอุตสาหกรรม

ความแตกต่างในระดับตลาด ความผันผวน และบทบาท

ขนาดตลาด - ตลาดทองคำมีขนาดประมาณ 30 ล้านล้านดอลลาร์ขณะที่เงินอยู่ที่เพียง 2.7 ล้านล้านดอลลาร์ ขนาดที่เล็กกว่านี้หมายความว่าเงินมีไวต่อการไหลเข้าของทุนมากกว่า

ความผันผวน - เงินมีความผันผวนสูงกว่าทองคำ 2-3 เท่า ซึ่งเป็นดาบสองคม: ลดลงแรงในตลาดซื้อ แต่พุ่งสูงในตลาดขาขึ้น

บทบาทในพอร์ตการลงทุน - ทองคำทำหน้าที่เป็นหลุมหลบภัยและทุนสำรองของธนาคารกลาง เงินกลับเป็นโลหะลูกผสมระหว่างสินทรัพย์มีค่าและสินค้าอุตสาหกรรม

ข้อเท็จจริงในการลงทุน: เงินหรือทองคำ?

ผู้ที่ต้องการสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงที่เสถียร ทองคำยังคงเป็นทางเลือกแรก แต่สำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงเพิ่มเติมเพื่อผลตอบแทนที่สูงกว่า ปัจจัยพื้นฐานปัจจุบัน - เงินมีราคาต่ำกว่าโดยประวัติศาสตร์ อุปทานมีความแข็งแรง และอุปสงค์อุตสาหกรรมกำลังพุ่งสูงขึ้น - ทำให้เงินเป็นตัวเลือกการลงทุนเพื่อการเติบโต (Growth Investment) ที่น่าสนใจอย่างมาก

ตารางเปรียบเทียบ: ทองคำ vs เงิน

ลักษณะ ทองคำ เงิน
ขนาดตลาดโดยประมาณ ประมาณ $30 ล้านล้าน ประมาณ $2.7 ล้านล้าน
ความต้องการภาคอุตสาหกรรม 10-15% ของอุปสงค์รวม 55-60% ของอุปสงค์รวม
การถือครองจากธนาคารกลาง ทุนสำรองหลัก ไม่มีนัยสำคัญ
ความผันผวน ต่ำกว่า สูงกว่า 2-3 เท่า
Gold/Silver Ratio ปัจจุบัน - ประมาณ 84:1 (สูงกว่าค่าเฉลี่ย)
บทบาทหลัก สินทรัพย์ปลอดภัย โลหะลูกผสม (ปลอดภัย + อุตสาหกรรม)

ช่องทาง 4 วิธีในการเริ่มต้นลงทุนเงิน

สำหรับนักลงทุนที่เห็นโอกาสในเงิน มีแนวทางการลงทุนหลากหลายขึ้นอยู่กับเป้าหมายและกำลังความเสี่ยง

การถือครองเงินกายภาพ: วิธีแบบดั้งเดิม

หลายคนเลือกที่จะซื้อเงินแท่งหรือเหรียญเงิน:

ข้อดี - คุณเป็นเจ้าของสินทรัพย์จริงๆ ไม่มีความเสี่ยงจากคู่สัญญา และมีความเป็นส่วนตัว

ข้อเสีย - ต้องใช้เงินทุนเริ่มต้นสูง ต้องเสียค่า Premium สำหรับค่าปลายน้อย มีต้นทุนในการจัดเก็บและประกันภัย สภาพคล่องต่ำ และมีความเสี่ยงเรื่องความบริสุทธิ์

การลงทุนผ่านกองทุนและหุ้นเหมืองแร่

กองทุนรวม - นักลงทุนสามารถซื้อหน่วยกองทุนที่ลงทุนในหุ้นของบริษัทเหมืองแร่เงินทั่วโลก

หุ้นเหมืองแร่ - นักลงทุนบางรายเลือกซื้อหุ้นของบริษัทผลิตเงินรายใหญ่เช่น Pan American Silver หรือ Wheaton Precious Metals โดยตรง

ข้อดี - สภาพคล่องสูง ไม่ต้องจัดเก็บ และสามารถกระจายความเสี่ยง

ข้อเสีย - มีความเสี่ยงเฉพาะของบริษัท การบริหารงาน ปัญหาต้นทุน และความเสี่ยงทางการเมือง ราคาหุ้นอาจไม่สอดคล้องกับราคาเงินเสมอ

การลงทุนผ่านตลาดฟิวเจอร์ส

สัญญาฟิวเจอร์สเงิน - นักลงทุนที่มีประสบการณ์สามารถซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์สอ้างอิงราคาเงิน

ข้อดี - ใช้เลเวอเรจ ใช้เงินทุนเริ่มต้นน้อย

ข้อเสีย - ความเสี่ยงสูงมาก ซับซ้อน ไม่เหมาะสำหรับมือใหม่

การเทรดผ่านสัญญา CFD: ทางเลือกที่ยืดหยุ่น

สัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) ได้เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงในการเทรดเงิน โดยให้ความยืดหยุ่นและใช้เงินทุนเริ่มต้นที่ลดน้อยลง

CFD คืออะไร - เป็นสัญญาระหว่างนักลงทุนกับโบรกเกอร์เพื่อเก็งกำไรจากส่วนต่างของราคาเงิน (XAGUSD) โดยไม่ต้องครอบครองเงินจริง

ข้อดี:

  • ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อย เพราะมีเลเวอเรจ
  • ทำกำไรได้ทั้งตลาดขึ้นและลง (สถานะซื้อและขาย)
  • ไม่ต้องจัดเก็บ ไม่มีต้นทุนแฝง
  • สภาพคล่องสูง เปิดปิดได้ง่ายในเกือบ 24 ชั่วโมง

ข้อเสีย - มีความเสี่ยงจากเลเวอเรจ จำเป็นต้องเลือกโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ

สรุปการเปรียบเทียบ 4 ช่องทาง

วิธี เหมาะสำหรับ จุดเด่น จุดอ่อน
เงินกายภาพ นักลงทุนระยะยาว เป็นเจ้าของจริง ไม่มีความเสี่ยงคู่สัญญา ต้องเงินทุนสูง สภาพคล่องต่ำ ต้นทุนการจัดเก็บ
กองทุน/หุ้น ผู้ต้องการสภาพคล่อง ซื้อขายง่าย กระจายความเสี่ยง ความเสี่ยงเฉพาะบริษัท
ฟิวเจอร์ส นักลงทุนมืออาชีพ ใช้ทุนน้อย ยืดหยุ่น ความเสี่ยงสูงมาก
CFD นักเก็งกำไรระยะสั้น ทุนน้อย ยืดหยุ่นสูง สภาพคล่องดี ความเสี่ยงเลเวอเรจ

ข้อดีและความเสี่ยงของการลงทุนเงิน

โอกาสที่มอบให้

ศักยภาพผลตอบแทนสูง - ด้วยความผันผวนที่มากและมูลค่าที่ต่ำกว่าทองคำในเชิงประวัติศาสตร์ เงินสามารถสร้างผลตอบแทนสูงกว่าได้

ความต้องการอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน - แนวโน้มการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและดิจิทัลเป็นเมกะเทรนด์ระยะยาวที่จะสร้างอุปสงค์อย่างต่อเนื่อง

ราคาเข้าถึงได้ง่าย - ราคาต่อออนซ์ต่ำกว่าทองคำหลายสิบเท่า ทำให้นักลงทุนรายย่อยสามารถกระจายความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม

ป้องกันเงินเฟ้อ - เงินมีประวัติยาวนานในการเป็นสินทรัพย์เก็บรักษามูลค่า

ความเสี่ยงที่ต้องคำนึงถึง

ความผันผวนของราคา - ความผันผวนสูงเดียวกันที่อาจสร้างกำไรมหาศาลก็สามารถทำให้เกิดการขาดทุนได้

ความอ่อนไหวต่อภาวะเศรษฐกิจ - เพราะอุปสงค์ส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรม เงินจึงอ่อนไหวต่อการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ

ต้นทุนในการเก็บรักษา - หากถือกายภาพจะต้องเสียค่าจัดเก็บและประกันภัย

ไม่มีผลตอบแทนเชิงบวก - ผลตอบแทนมาจากส่วนต่างราคาเพียงเท่านั้น ไม่มีดอกเบี้ยหรือปันผล

สรุป: เงินคือปลายทางสำคัญในพอร์ตของนักลงทุนยุคใหม่

โลหะเงิน ไม่ใช่เพียง “ทองคำสำหรับคนจน” อีกต่อไป แต่ได้กลายมาเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลกสมัยใหม่ ความเป็นอยู่ของเงินในพอร์ตการลงทุนของคุณนั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความเสี่ยงที่คุณเต็มใจยอมรับ

สำหรับผู้ที่มองหาช่องทางการลงทุนที่ยืดหยุ่นและมีความสะดวก ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มต่างๆ ที่สามารถช่วยให้คุณเข้าถึงตลาดเงินโลกได้ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือนักลงทุนที่มีประสบการณ์ สิ่งสำคัญคือการเข้าใจปัจจัยพื้นฐาน ทำการบ้านของคุณอย่างรอบคอบ และเลือกช่องทางที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของคุณ

ขณะนี้มีโอกาสที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่เต็มใจขึ้นเหนือความสามารถของตลาดเงินแท่งและตลาดเงินทั่วไป ความสำคัญอยู่ที่การลงทุนอย่างมีความรู้ และปรับพอร์ตการลงทุนของคุณให้ตรงกับเป้าหมายระยะยาวของคุณ

Xem bản gốc
Trang này có thể chứa nội dung của bên thứ ba, được cung cấp chỉ nhằm mục đích thông tin (không phải là tuyên bố/bảo đảm) và không được coi là sự chứng thực cho quan điểm của Gate hoặc là lời khuyên về tài chính hoặc chuyên môn. Xem Tuyên bố từ chối trách nhiệm để biết chi tiết.
  • Phần thưởng
  • Bình luận
  • Đăng lại
  • Retweed
Bình luận
0/400
Không có bình luận
  • Gate Fun hot

    Xem thêm
  • Vốn hóa:$3.52KNgười nắm giữ:1
    0.00%
  • Vốn hóa:$3.51KNgười nắm giữ:1
    0.00%
  • Vốn hóa:$3.53KNgười nắm giữ:2
    0.00%
  • Vốn hóa:$3.56KNgười nắm giữ:2
    0.00%
  • Vốn hóa:$3.53KNgười nắm giữ:2
    0.04%
  • Ghim