🔥 Gate 廣場活動|#发帖赢Launchpad新币KDK 🔥
KDK|Gate Launchpad 最新一期明星代幣
以前想參與? 先質押 USDT
這次不一樣 👉 發帖就有機會直接拿 KDK!
🎁 Gate 廣場專屬福利:總獎勵 2,000 KDK 等你瓜分
🚀 Launchpad 明星項目,走勢潛力,值得期待 👀
📅 活動時間
2025/12/19 12:00 – 12/30 24:00(UTC+8)
📌 怎麼參與?
在 Gate 廣場發帖(文字、圖文、分析、觀點都行)
內容和 KDK 上線價格預測/KDK 項目看法/Gate Launchpad 機制理解相關
帖子加上任一話題:#发帖赢Launchpad新币KDK 或 #PostToWinLaunchpadKDK
🏆 獎勵設定(共 2,000 KDK)
🥇 第 1 名:400 KDK
🥈 前 5 名:200 KDK / 人(共 1,000 KDK)
🥉 前 15 名:40 KDK / 人(共 600 KDK)
📄 注意事項
內容需原創,拒絕抄襲、洗稿、灌水
獲獎者需完成 Gate 廣場身份認證
獎勵發放時間以官方公告為準
Gate 保留本次活動的最終解釋權
金價何時會下跌?2568-2569?深度分析:突破4,000美元後
หลายคนกำลังถามว่า ทองคำจะลงในอนาคตหรือเปล่า? หลังจากที่เห็นราคาพุ่งไปจนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,181 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 นักลงทุนหลายคนเริ่มหวาดกังวล แต่ถ้าจะตัดสินใจซื้อหรือขาย ต้องเข้าใจก่อนว่าสถาบันการเงินชั้นนำของโลกคิดอย่างไรกับสถานการณ์นี้
ภาพรวมตลาดทองคำ 2568: ปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ตั้งแต่ต้นปี 2568 ราคาทองคำได้ผ่านการปรับตัวขึ้นที่น่าประหลาดใจ โดยมีการเพิ่มขึ้นถึง 66% ในเพียง 7 เดือน นี่แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการซื้อที่แรงเกิดจากปัจจัยหลายประการ
ในประเทศไทย ราคาทองแท่ง 96.5% ก็เคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน โดยพุ่งผ่านระดับ 62,000 บาท ซึ่งเกินเป้าหมายเดิมที่วิชเชษฐ์ตั้งไว้ที่ 55,000 บาท
จากมุมมองของธนาคารใหญ่ของโลก: ทิศทางแนว “ยังไปต่อได้”
Goldman Sachs ได้ยกระดับเป้าราคาทองคำเป็น 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับสิ้นปี 2569 (ปรับขึ้นจากเป้า 4,300 ดอลลาร์เดิม) โดยเหตุผลหลักคือการไหลเข้าอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกลาง และการซื้อผ่านกองทุน ETF ทองคำ
สำหรับปี 2568 นักวิเคราะห์ Lina Thomas ที่ Goldman Sachs ปรับเป้า 3,300 ดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่าการซื้อจากธนาคารกลางแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้า
UBS ก็เห็นแบบเดียวกัน โดยพยากรณ์ว่าราคาจะแตะ 3,500 ดอลลาร์ภายในธันวาคม 2568 โดยหนึ่งในปัจจัยหลักคือการสะสมทองคำของธนาคารกลางที่ไม่เคยมีมาก่อน ตามที่ Joni Teves จากธนาคารนี้ชี้ให้เห็น
จากการคำนวณมูลค่ากลับมาเป็นทองคำไทย หากทองคำสากลแตะ 4,900 ดอลลาร์ ราคาทองคำในประเทศไทยอาจจะสูงถึง 75,000-80,000 บาท ภายในปี 2569
เหตุผล 4 ประการที่ผลักดันให้ทองคำเพิ่มมูลค่า
1. ความตึงเครียดทางการค้า: ประธานาธิบดี ทรัมป์ ได้ประกาศแผนขึ้นภาษีสินค้าจากจีนทั้งหมด 100% ซึ่งตั้งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน ความไม่แน่นอนนี้ทำให้นักลงทุนมองหาทองคำเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง
2. นโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลาง: เฟดเดอรัลเรเซิร์ฟได้เริ่มการลดดอกเบี้ย (0.25% ในกันยายน 2568) ซึ่งทำให้ค่าดอลลาร์อ่อนค่าลง และเพิ่มความดึงดูดของทองคำในสกุลเงินอื่นๆ
3. การซื้อจากธนาคารกลาง: กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ได้ซื้อทองคำสุทธิกว่า 1,000 ตันต่อปี ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี เพื่อลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐและกระจายความเสี่ยง
4. การเตรียมสกุลเงินดิจิทัลของ BRICS: กลุ่ม BRICS กำลังวางแผนสร้างสกุลเงินดิจิทัลที่มีทองคำหนุนหลัง เพื่อใช้เป็นอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสมาชิก ซึ่งท้าทายบทบาทของดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อไหร่ที่ทองคำจะลง: สัญญาณเตือนที่ต้องจับตา
แม้ว่าแนวโน้มจะยังขาขึ้น แต่มีสถานการณ์ที่อาจทำให้ราคาทองกลับตัวลง:
วิธีจับจังหวะเทรดทองคำในช่วงนี้
กลยุทธ์ที่ 1: ซื้อเมื่อเห็นการพักฐาน (Dip Buying)
ทองคำอยู่ในเทรนด์ขาขึ้นแรงแต่ปรับตัวมาเร็วเกินไป จึงอาจมีการปรับตัวลงระยะสั้น คุณสามารถรอจังหวะที่ราคาไปถึงแนวรับสำคัญ เช่น 3,859 ดอลลาร์ (แนวรับเปิดเดือน) หรือ 3,782 ดอลลาร์ จากนั้นเข้าซื้อและตั้งเป้าขายที่จุดสูงสุดใหม่
กลยุทธ์ที่ 2: ซื้อเมื่อแนวต้านถูกทดสอบ (Breakout Retest)
เมื่อราคาทองพิเศษแนวต้าน 4,000 ดอลลาร์ แนวต้านนี้อาจกลายเป็นแนวรับใหม่ รอให้ราคากลับมาทดสอบแนว 3,980-4,000 ดอลลาร์ ถ้าเห็นราคาเด้งขึ้นและปริมาณเพิ่มขึ้น ก็เป็นโอกาสเข้าซื้อได้
กลยุทธ์ที่ 3: ใช้ระดับ Fibonacci
ลากเส้น Fibonacci จากจุดต่ำเดิม (สมมติ 3,500 ดอลลาร์) ไปยังจุดสูงสุด (4,059 ดอลลาร์) ระดับ 38.2% และ 61.8% เป็นจุดซื้อที่ดี เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับเหล่านี้และแสดงสัญญาณเด้งขึ้น
บทสรุป: ทองจะลงแต่เมื่อไหร่?
ตามการวิเคราะห์ของสถาบันการเงินชั้นนำ ราคาทองคำมีโอกาสยังปรับตัวขึ้นต่อไปถึงปลายปี 2569 อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเพิ่มขึ้นแบบตรงเส้นในตลาด ระหว่างทางจะมีการปรับตัวลงเพื่อให้พักฐาน คำตอบของคำถาม “ทองจะลงช่วงไหน” ก็คือ จะลงเป็นช่วงๆ ไม่ใช่ลงแบบวิด
นักลงทุนที่ซื้อหรือจะซื้อทองควรมีจิตใจที่ยืดหยุ่น รอจังหวะปรับตัวลงเพื่อเพิ่มปริมาณ และอย่าตกใจหากเห็นราคาเปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน เทรนด์หลักยังบอกว่าทองคำมีโอกาสไปสูงขึ้นในอีก 1-2 ปีข้างหน้า