金價何時會下跌?2568-2569?深度分析:突破4,000美元後

หลายคนกำลังถามว่า ทองคำจะลงในอนาคตหรือเปล่า? หลังจากที่เห็นราคาพุ่งไปจนแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4,181 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 นักลงทุนหลายคนเริ่มหวาดกังวล แต่ถ้าจะตัดสินใจซื้อหรือขาย ต้องเข้าใจก่อนว่าสถาบันการเงินชั้นนำของโลกคิดอย่างไรกับสถานการณ์นี้

ภาพรวมตลาดทองคำ 2568: ปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

ตั้งแต่ต้นปี 2568 ราคาทองคำได้ผ่านการปรับตัวขึ้นที่น่าประหลาดใจ โดยมีการเพิ่มขึ้นถึง 66% ในเพียง 7 เดือน นี่แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการซื้อที่แรงเกิดจากปัจจัยหลายประการ

ในประเทศไทย ราคาทองแท่ง 96.5% ก็เคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน โดยพุ่งผ่านระดับ 62,000 บาท ซึ่งเกินเป้าหมายเดิมที่วิชเชษฐ์ตั้งไว้ที่ 55,000 บาท

จากมุมมองของธนาคารใหญ่ของโลก: ทิศทางแนว “ยังไปต่อได้”

Goldman Sachs ได้ยกระดับเป้าราคาทองคำเป็น 4,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับสิ้นปี 2569 (ปรับขึ้นจากเป้า 4,300 ดอลลาร์เดิม) โดยเหตุผลหลักคือการไหลเข้าอย่างต่อเนื่องจากธนาคารกลาง และการซื้อผ่านกองทุน ETF ทองคำ

สำหรับปี 2568 นักวิเคราะห์ Lina Thomas ที่ Goldman Sachs ปรับเป้า 3,300 ดอลลาร์ สะท้อนให้เห็นว่าการซื้อจากธนาคารกลางแข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้า

UBS ก็เห็นแบบเดียวกัน โดยพยากรณ์ว่าราคาจะแตะ 3,500 ดอลลาร์ภายในธันวาคม 2568 โดยหนึ่งในปัจจัยหลักคือการสะสมทองคำของธนาคารกลางที่ไม่เคยมีมาก่อน ตามที่ Joni Teves จากธนาคารนี้ชี้ให้เห็น

จากการคำนวณมูลค่ากลับมาเป็นทองคำไทย หากทองคำสากลแตะ 4,900 ดอลลาร์ ราคาทองคำในประเทศไทยอาจจะสูงถึง 75,000-80,000 บาท ภายในปี 2569

เหตุผล 4 ประการที่ผลักดันให้ทองคำเพิ่มมูลค่า

1. ความตึงเครียดทางการค้า: ประธานาธิบดี ทรัมป์ ได้ประกาศแผนขึ้นภาษีสินค้าจากจีนทั้งหมด 100% ซึ่งตั้งจะมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน ความไม่แน่นอนนี้ทำให้นักลงทุนมองหาทองคำเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง

2. นโยบายดอกเบี้ยของธนาคารกลาง: เฟดเดอรัลเรเซิร์ฟได้เริ่มการลดดอกเบี้ย (0.25% ในกันยายน 2568) ซึ่งทำให้ค่าดอลลาร์อ่อนค่าลง และเพิ่มความดึงดูดของทองคำในสกุลเงินอื่นๆ

3. การซื้อจากธนาคารกลาง: กลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ได้ซื้อทองคำสุทธิกว่า 1,000 ตันต่อปี ติดต่อกันเป็นเวลา 3 ปี เพื่อลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐและกระจายความเสี่ยง

4. การเตรียมสกุลเงินดิจิทัลของ BRICS: กลุ่ม BRICS กำลังวางแผนสร้างสกุลเงินดิจิทัลที่มีทองคำหนุนหลัง เพื่อใช้เป็นอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสมาชิก ซึ่งท้าทายบทบาทของดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อไหร่ที่ทองคำจะลง: สัญญาณเตือนที่ต้องจับตา

แม้ว่าแนวโน้มจะยังขาขึ้น แต่มีสถานการณ์ที่อาจทำให้ราคาทองกลับตัวลง:

  • เมื่อสหรัฐฯ-จีนเจรจาภาษีสำเร็จ: หากความตึงเครียดลดลง ความต้องการ “สินทรัพย์ป้องกันภัย” ก็จะลดลง
  • ความกดดันจากการเทขายทำกำไร: หลังจากปรับตัวขึ้นต่อเนื่องสักระยะ นักลงทุนอาจเริ่มขายเพื่อจำเป็นกำไร
  • ค่าดอลลาร์แข็งค่า: หากเศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่ง และเฟด ชะลอการลดดอกเบี้ย
  • ดอกเบี้ยยังสูง: หากเงินเฟ้อยังไม่ลด เฟดอาจต้องคงดอกเบี้ยสูงต่อไป

วิธีจับจังหวะเทรดทองคำในช่วงนี้

กลยุทธ์ที่ 1: ซื้อเมื่อเห็นการพักฐาน (Dip Buying)

ทองคำอยู่ในเทรนด์ขาขึ้นแรงแต่ปรับตัวมาเร็วเกินไป จึงอาจมีการปรับตัวลงระยะสั้น คุณสามารถรอจังหวะที่ราคาไปถึงแนวรับสำคัญ เช่น 3,859 ดอลลาร์ (แนวรับเปิดเดือน) หรือ 3,782 ดอลลาร์ จากนั้นเข้าซื้อและตั้งเป้าขายที่จุดสูงสุดใหม่

กลยุทธ์ที่ 2: ซื้อเมื่อแนวต้านถูกทดสอบ (Breakout Retest)

เมื่อราคาทองพิเศษแนวต้าน 4,000 ดอลลาร์ แนวต้านนี้อาจกลายเป็นแนวรับใหม่ รอให้ราคากลับมาทดสอบแนว 3,980-4,000 ดอลลาร์ ถ้าเห็นราคาเด้งขึ้นและปริมาณเพิ่มขึ้น ก็เป็นโอกาสเข้าซื้อได้

กลยุทธ์ที่ 3: ใช้ระดับ Fibonacci

ลากเส้น Fibonacci จากจุดต่ำเดิม (สมมติ 3,500 ดอลลาร์) ไปยังจุดสูงสุด (4,059 ดอลลาร์) ระดับ 38.2% และ 61.8% เป็นจุดซื้อที่ดี เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับเหล่านี้และแสดงสัญญาณเด้งขึ้น

บทสรุป: ทองจะลงแต่เมื่อไหร่?

ตามการวิเคราะห์ของสถาบันการเงินชั้นนำ ราคาทองคำมีโอกาสยังปรับตัวขึ้นต่อไปถึงปลายปี 2569 อย่างไรก็ตาม ไม่มีการเพิ่มขึ้นแบบตรงเส้นในตลาด ระหว่างทางจะมีการปรับตัวลงเพื่อให้พักฐาน คำตอบของคำถาม “ทองจะลงช่วงไหน” ก็คือ จะลงเป็นช่วงๆ ไม่ใช่ลงแบบวิด

นักลงทุนที่ซื้อหรือจะซื้อทองควรมีจิตใจที่ยืดหยุ่น รอจังหวะปรับตัวลงเพื่อเพิ่มปริมาณ และอย่าตกใจหากเห็นราคาเปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน เทรนด์หลักยังบอกว่าทองคำมีโอกาสไปสูงขึ้นในอีก 1-2 ปีข้างหน้า

查看原文
此頁面可能包含第三方內容,僅供參考(非陳述或保證),不應被視為 Gate 認可其觀點表述,也不得被視為財務或專業建議。詳見聲明
  • 讚賞
  • 留言
  • 轉發
  • 分享
留言
0/400
暫無留言
交易,隨時隨地
qrCode
掃碼下載 Gate App
社群列表
繁體中文
  • 简体中文
  • English
  • Tiếng Việt
  • 繁體中文
  • Español
  • Русский
  • Français (Afrique)
  • Português (Portugal)
  • Bahasa Indonesia
  • 日本語
  • بالعربية
  • Українська
  • Português (Brasil)