เมื่อเงินฝืด ธนาคารแห่งประเทศมักลดดอกเบี้ย ทำให้ bond เก่าที่มีดอกเบี้ยสูงมีค่าเพิ่มขึ้น ผู้ที่ถือ bond ดีจะได้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ แต่ต้องเลือก bond ที่มีความน่าเชื่อถือ
Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
Krisis likuiditas: Investor perlu tahu dan apa yang harus diinvestasikan?
เงินฝืดคืออะไร? พูดง่าย ๆ ให้เข้าใจ
ภาวะเงินฝืด (Deflation) หมายถึงสถานการณ์ที่ราคาสินค้าและบริการลดลงต่อเนื่อง กลับกันกับเงินเฟ้อ เมื่อเกิดขึ้น เงินในมือคุณจะมีค่ามากขึ้น คุณซื้อของได้มากขึ้นด้วยเงินจำนวนเท่าเดิม แต่ต้องจำไว้ว่าการลดลงของราคาสินค้านี้ไม่ได้หมายถึง ทุก สินค้า แต่หมายถึงค่าเฉลี่ยโดยรวม บางอย่างอาจยังแพงอยู่
เงินฝืดเกิดมาจากไหน?
ผู้คนมักจะคิดว่า ภาวะเงินฝืด มาจากที่เดียว แต่จริง ๆ มีปัจจัยหลายอย่าง:
ด้านอุปทาน: เมื่อผู้ผลิตเพิ่มกำลังการผลิต หรือเทคโนโลยีใหม่ทำให้ต้นทุนลดลง ราคาสินค้าก็ลดลงตามไปด้วย
ด้านอุปสงค์: เมื่อคนซื้อน้อยลง เพราะเศรษฐกิจหดตัว หนี้สินเพิ่ม หรือการว่างงานสูงขึ้น ผู้ผลิตต้องลดราคาเพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้คนซื้อ
นโยบายผิด: รัฐบาลอาจเก็บภาษีสูงเกินไป ปริมาณเงินในระบบไม่เพียงพอ หรือยึดนโยบายการเงินที่เข้มงวดเกินไป
ปัญหาสภาพคล่อง: เมื่อเงินออกจากประเทศมากเกินไป หรือคนเก็บเงินแทนที่จะใช้ลงทุน
ภาวะเงินฝืดกับเศรษฐกิจถดถอย เกี่ยวข้องกันยังไง?
นี่คือจุดสำคัญ: เมื่อ GDP ติดลบติดต่อกัน 2 ไตรมาส (ที่เรียกว่าการถดถอย) คนก็ลดการใช้จ่าย ธุรกิจเห็นยอดขายร่วง ก็ต้องลดราคา โดยหวังว่าจะขายของได้ แต่คน ๆ เห็นราคาลงแล้วก็รอให้ลดต่อไปอีก เหล่าธุรกิจได้รับกำไรน้อยลง เลยต้องลดการจ้างงาน คนตกงาน รายได้ลดลง ซื้อของน้อยลงไปอีก… นี่คือ วงจรขาลงของเงินฝืด (deflationary spiral) ที่ยากจะออกมา
ใครได้เปรียบ? ใครเสียเปรียบ?
ได้เปรียบ:
เสียเปรียบ:
ลงทุนอะไรดีในช่วงเงินฝืด?
1. ตราสารหนี้ (Bonds)
เมื่อเงินฝืด ธนาคารแห่งประเทศมักลดดอกเบี้ย ทำให้ bond เก่าที่มีดอกเบี้ยสูงมีค่าเพิ่มขึ้น ผู้ที่ถือ bond ดีจะได้ผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ แต่ต้องเลือก bond ที่มีความน่าเชื่อถือ
2. หุ้น “ปลอดภัย” (Defensive Stocks)
ลงทุนกับหุ้นบริษัทที่ขายสินค้า/บริการที่จำเป็นในชีวิต เช่น อาหาร เครื่องดื่ม ยา ยูทิลิตี้ (ไฟ น้ำ) บริษัทเหล่านี้ยังขายสินค้าได้แม้ในช่วงเศรษฐกิจซบเซา
3. อสังหาริมทรัพย์
ในช่วงเงินฝืด ราคาที่ดินและคอนโดอาจลดลง ผู้ขายรีบขายเพื่อเก็บเงินสด คุณมีโอกาสซื้อด้วยราคาที่ดี อย่างไรก็ตาม อสังหาริมทรัพย์ต้องใช้เงินเยอะ และใช้เวลานาน
4. ทองคำ
ปกติที่ดีแล้ว แต่ในเงินฝืด ทองคำก็ลดราคาเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าแท้จริง และเหมาะสำหรับกระจายความเสี่ยง
5. เงินสด
ไม่ได้น่าเบื่อเท่าที่คิด ในช่วงเงินฝืด เงินสดจริง ๆ แล้วเป็นสินทรัพย์ที่มีค่า เพราะคุณสามารถรอให้ราคาลดไปอีก แล้วจึงจ่ายเงิน
วิธีลดผลกระทบจากเงินฝืด
เลือกหุ้นที่แข็ง: ผู้บริหารที่มีสติ ยังคงสร้างรายได้ได้ในช่วงเศรษฐกิจแย่ ๆ หุ้นของบริษัทดังกล่าวจะกลับมาพุ่งสูงหลังคลื่นลมสงบ
แบ่งการเก็ง: ไม่ลงทุนทั้งหมดเลย แบ่งซื้อแบ่งขาย ตัดกำไรส่วนหนึ่งไว้เป็นเงินสด
ลองเทรด Short: ถ้าคุณมีประสบการณ์ การขาย Short หรือ Put ทำให้คุณกำไรได้ในตลาดขาลง
ศึกษาก่อนทำ: สิ่งสำคัญที่สุด การลงทุนมีความเสี่ยง อย่าลุ่มหลงกับมูลค่า
สรุป
ภาวะเงินฝืด ไม่ใช่เรื่องแปลก ของแพงลดราคาดูเหมือนดี แต่จริง ๆ แล้วเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจมีปัญหา ถ้าคุณรู้วิธีลงทุน มีเงินสด มีแผนการดี ช่วงเงินฝืดกลับเป็นโอกาสดีสำหรับการซื้อราคาถูก แต่ถ้าคุณไม่เตรียมตัว ก็อาจจะตกงาน รายได้ลดลง เหมือนกลุ่มคนอื่น ๆ ที่เสียเปรียบไป
สิ่งสำคัญคือ: ศึกษา วางแผน และเตรียมตัวให้พร้อมตลอดเวลา